10 อาการ สัญญาณบอกโรคเบาหวาน ตรวจเช็คด่วน!!

หลายครั้งที่คนทั่วไปมักได้ยินได้ฟังเกี่ยวกับโรคเบาหวาน เรื่องอันตรายของโรคแทรกซ้อนที่ทำให้ผู้ป่วยเมื่อเกิดมีบาดแผลแล้วลุกลามไม่สามารถรักษาได้ จนเป็นเหตุให้ต้อง “ตัดขาทิ้ง” ไป ทั้งที่เริ่มต้นของโรคเหมือนจะไม่มีอะไรมาก ดังนั้น การเป็นโรคเบาหวานจึงไม่ใช่โรคที่เบียดบังแค่ความสุขในเรื่องการกินอาหารในชีวิตที่ต้องคอยระมัดระวัง ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติ วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปจากโรคที่รักษาไม่หาย ต้องดูแลตัวเองไปตลอดชีวิตโรคนี้ คงไม่มีใครปฏิเสธว่า นี่คือโรคที่น่ากลัวอีกโรคหนึ่ง

"โรคเบาหวาน" (Diabetes) เกิดจากความผิดปกติของฮอร์โมนที่เรียกว่าอินซูลิน ที่ตับอ่อนสร้างขึ้นมา หากสร้างได้น้อยเกินไป หรือสร้างไม่ได้เลย จะก่อให้เกิดกรณีที่การเผาผลาญน้ำตาลให้กลายเป็นพลังงานแปรปรวนไป ก่อให้เกิดผลข้างเคียงคือ การสะสมน้ำตาลในอวัยวะต่างๆ ในร่างกายแทน และเมื่อมีน้ำตาลในเลือดมาก ก็จะขับออกมาทางปัสสาวะ ดังที่เราเคยได้ยินว่า ปัสสาวะของคนเป็นโรคเบาหวานจะมีความหวานจนกระทั่งมดขึ้นซึ่งเป็นอาการบ่งชี้อีกส่วนหนึ่ง หากใครพบว่าปัสสาวะแล้วมดขึ้น ต้องรีบเช็คระดับน้ำตาลเพราะมีแนวโน้มเป็นโรคเบาหวานนั่นเอง

รู้เท่าทัน...อันตรายของโรคเบาหวาน

หากใครเป็นโรคนี้แล้วจะกลายเป็นคนป่วยตลอดชีวิต เพราะโรคนี้เป็นโรคเรื้อรังและยังไม่มียาหรือวิธีใดทำให้หายได้ ตลอดชีวิตของผู้ป่วยต้องตกอยู่ในภาวการณ์ที่ต้องดูแล ควบคุมทั้งเรื่องอาหารและยาตลอดชีวิต เพื่อประคับประคองให้อยู่ได้ ต้องไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินไป เพราะหากสูงเกินไปอาจเกิดอาการช็อกได้ ไม่สามารถกินอาหารได้ตามใจปาก อีกทั้งต้องระวังเรื่องโรคแทรกซ้อน เช่น ไตวาย อาการมือเท้าชาซึ่งอาจนำมาซึ่งอุบัติเหตุที่ทำให้เกิดแผลโดยไม่รู้ตัว หรือหากจำเป็นต้องผ่าตัดก็ลำบากเนื่องจากต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ได้ก่อน นับว่ามีอันตรายจากเรื่องข้างเคียงมาก

ทุกคนจึงพึงระวังตัวเอง ไม่ให้เป็นโรคนี้ โดยเฉพาะคนที่ครอบครัวมีประวัติว่า มีใครเป็นโรคเบาหวานมาก่อน เนื่องจากโรคเบาหวานเป็นโรคทางพันธุกรรมด้วย นอกจากนั้นยังอาจเกิดจากอาหารการกิน สิ่งแวดล้อม รอบตัว รวมถึงการขาดการออกกำลังกาย หรือแม้แต่การใช้ยาบางชนิด ก็อาจเป็นมูลเหตุให้เกิดโรคได้

10 อาการบ่งบอกเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน

หากคุณพบว่าตนเองมีอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบพบแพทย์

1. หิวน้ำและปัสสาวะบ่อย (อาการโรคเบาหวาน) เกิดจากน้ำตาลในเลือดสูงผิดปกติจนร่างกายต้องเร่งขับออกผ่านปัสสาวะ ทำให้เข้าห้องน้ำบ่อย พอเข้าบ่อยก็ทำให้ร่างกายขาดน้ำ ก็หิวน้ำบ่อย

2. น้ำหนักตัวลดลงโดยไม่มีเจตนาลดน้ำหนัก (อาการโรคเบาหวาน) ระดับน้ำตาลในเลือดสูงทำให้น้ำหนักลดลงฮวบฮาบแบบ 5-10 กิโลกรัม ภายในเวลา 2-3 เดือนทั้งนี้เนื่องจากเมื่อร่างกายเอาน้ำตาลไปใช้ไม่ได้ ก็จะดึงโปรตีนจากกล้ามเนื้อไปเปลี่ยนเป็นพลังงานแทน แล้วยังมีอาการข้างเคียงอีกก็คือ ไตจะทำงานหนักในการเผาผลาญแคลอรี่ ดังนั้น เราจึงมักพบว่า โรคเบาหวาน กับโรคไตวายนั้น มักมาคู่กัน

3. หิวบ่อยจนต้องกินจุบจิบ (อาการโรคเบาหวาน) เพราะโรคนี้เป็นความผิดปกติเกี่ยวกับระดับน้ำตาลในเลือด จึงมีแนวโน้มว่า เมื่อใดที่ร่างกายขาดน้ำตาล ร่างกายจะเรียกร้องให้คุณกินจุบจิบเพื่อให้มีอาหารเข้าไปทดแทน

4. มีปัญหาผิวหนังบางประการ (อาการโรคเบาหวาน) ทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อนอาการข้างเคียงของคนเป็นเบาหวานคือเรื่องผิวแห้งแตก หรือคัน บางทีก็มีรอยคล้ำดำที่คอหรือใต้รักแร้ก็ด้วย จึงต้องหมั่นสังเกตสุขภาพตัวเองให้ดี หากสงสัยก็ต้องพบแพทย์เพื่อตรวจก่อนสายเกินไป

5. เมื่อมีบาดแผลแล้วหายช้าจนรู้สึกว่าผิดปกติ (อาการโรคเบาหวาน) เพราะระดับน้ำตาลในเลือดจะขัดขวางการทำงานของหลอดเลือด ดังนั้นเวลาเป็นแผลจึงหายช้า เพราะเลือดไปเลี้ยงตรงส่วนแผลได้น้อย และยังต้องระวังเรื่องการติดเชื้อที่จะลุกลามอีก ดังนั้น หากผิดปกติต้องพบแพทย์ทันที

6. ติดเชื้อราง่าย (อาการโรคเบาหวาน) คนเป็นเบาหวานจะมีภูมิคุ้มกันต่ำ ไวต่อการติดเชื้อ โดยเฉพาะเชื้อราแคนดิดา (Candida) ซึ่งเติบโตได้ดีในที่มีน้ำตาล

7. รู้สึกอ่อนเพลียและฉุนเฉียวง่าย (อาการโรคเบาหวาน)ระดับน้ำตาลในเลือดสูงส่งผลกระทบต่อการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายตลอดจนเรื่องของอารมณ์

8. มีอาการตาพร่า มองเห็นไม่ชัด (อาการโรคเบาหวาน) ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงเกินไป จะทำให้ดวงตาผิดปกติด้านการมองเห็น เหมือนมีอะไรลอยไปมาในดวงตา อย่างที่มีการพูดติดปากว่า เบาหวานขึ้นตา หากเป็นมากสุดก็คือทำให้ตาบอดได้

9. มีอาการชาปลายมือปลายเท้า (อาการโรคเบาหวาน) ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงเกินไป จะทำลายระบบการทำงานของประสาททำให้เกิดอาการชาตามปลายมือปลายเท้าได้

10. น้ำตาลในเลือดสูง (อาการโรคเบาหวาน) เรื่องนี้พบได้กรณีมีการตรวจสุขภาพประจำปี ซึ่งหากแพทย์พบว่า ผู้ป่วยมีน้ำตาลในเลือดสูงเกินกว่าปกติแล้ว จะต้องมีการตรวจซ้ำ เพราะอาจกำลังเป็นเบาหวานอยู่ก็ได้

โรคเบาหวานเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้จาก กรรมพันธุ์ การรับประทานอาหาร การไม่ออกกำลังกาย มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อชีวิตได้ รวมถึงสร้างความไม่เป็นสุขกับชีวิตที่ต้องอยู่กับยาควบคุมระดับน้ำตาลตลอดชีวิต อีกทั้งต้องระมัดระวังเรื่องโรคแทรกซ้อน การสูญเสียอวัยวะจากแผลติดเชื้อที่รักษาไม่หาย การสูญเสียการมองเห็น หากเบาหวานขึ้นตา ดังนั้น จึงควรตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อเช็คน้ำตาลในเลือด และดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร และสังเกตหากมีความผิดปกติที่ส่อว่าอาจเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวาน

สำหรับผู้ที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดเบาหวาน ไขมัน คอเลสเตอรอลแบบแคปซูล ทานง่าย ได้ผลจริง และมีคำยืนยันจากผู้ที่ลองใช้ ลองคลิกที่นี่ ได้เลยค่ะ