free web tracker, fire_lady 12 สรรพคุณ…ประโยชน์ของพริกหยวก รสเผ็ดน้อย สรรพคุณทางยามาก • สุขภาพดี

12 สรรพคุณ...ประโยชน์ของพริกหยวก รสชาติเผ็ดน้อย แต่สรรพคุณทางยากลับมากมาย

สรรพคุณ ประโยชน์ของพริกหยวก

บรรดาอาหารรสชาติเผ็ดที่มีพริกสด พริกขี้หนู เป็นเครื่องปรุงสำคัญอาจไม่ใช่เมนูโปรดของบางคน เนื่องจากไม่ชอบรสเผ็ดหรือบ้างก็กินเผ็ดไม่ได้ คนเหล่านั้นจึงพลาดที่จะได้ประโยชน์ดีๆ จากพริกไปอย่างน่าเสียดาย แต่ทำไมถึงไม่ลองหันมากินพริกรสชาติเผ็ดน้อยอย่าง “พริกหยวก” (ฺBell pepper) กันบ้างล่ะ เพราะขึ้นชื่อว่าพริกแม้จะคนละสายพันธุ์และมีรสเผ็ดมากเผ็ดน้อยต่างกันไป ก็มีสรรพคุณทางยาและคุณค่าทางสารอาหารไม่ด้อยไปกว่ากันหรอกนะ

“พริกหยวก” สรรพคุณดีไม่แพ้พริกเผ็ดๆ

พริกหยวก” (ฺBell pepper) สายพันธุ์ของพริกชนิดหนึ่งที่มีลักษณะใหญ่กว่าพริกสด พริกขี้หนู และพริกชี้ฟ้า มีระดับของความเผ็ดน้อยกว่าพริกชนิดอื่นแต่ก็เผ็ดกว่าพริกหวานเล็กน้อย เมื่อผลอ่อนมักมีสีเขียวอ่อนหรือสีเหลืองอ่อน ส่วนผลสุกจะเปลี่ยนเป็นสีแดง สีส้ม สีเหลือง และสีเขียว ภายในบรรจุเมล็ดกลมจำนวนมากเกาะติดอยู่กับรก ซึ่งจะมีสารสำคัญเช่นเดียวกับพริกชนิดอื่นคือ สารแคปไซซิน เป็นสารที่ให้รสเผ็ดหากโดนผิวหนังจะทำให้เกิดการระคายเคือง

ด้วยรสชาติเผ็ดน้อยของพริกหยวกจึงน่าสนใจสำหรับคนที่กินเผ็ดจัดไม่ได้ มักจะถูกนำมาใช้ประกอบอาหารรวมกับการใส่เนื้อสัตว์และผักชนิดอื่นๆ พริกหยวกจึงเปรียบได้กับผักชนิดหนึ่งที่มีรสชาติอร่อยแล้วมากด้วยคุณค่าทางโภชนาการต่างๆ ที่สำคัญต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินซี แคลเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส เบต้าแคโรทีน และใยอาหาร

นอกจากนี้พริกหยวกยังเป็นอาหารสมุนไพรที่มีสรรพคุณในการช่วยป้องกันและรักษาโรค ซึ่งจะทำให้สุขภาพดีและแข็งแรง โดยเฉพาะสารแคปไซซินนั้นแม้จะเผ็ดแต่ก็มีคุณสมบัติที่เป็นผลดีต่อหลอดเลือด ลดระดับน้ำตาลในเลือดลงได้ ทำให้ความเสี่ยงที่เกิดโรคเรื้อรังน้อยลงตามไปด้วย

12 สรรพคุณของพริกหยวก ประโยชน์ในการรักษาโรค

1. พริกหยวกมีสารแคปไซซิน ซึ่งมีประโยชน์ต่อคนป่วยเป็นโรคเบาหวาน เพราะช่วยบำบัดอาการของโรค ช่วยทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง

2. พริกหยวกยังส่งผลให้ระดับของคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีและไตรกลีเซอไรด์ในเลือดลดลงด้วย โดยการเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี ทำให้ระดับไขมันแต่ละชนิดมีความสมดุลกัน

3. พริกหยวกมีคุณสมบัติที่ช่วยขยายหลอดเลือด ทำให้เกิดการอุดตันของเส้นเลือดน้อย และเลือดสามารถไหลเวียนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้มากและดีขึ้น ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด

4. สรรพคุณของพริกหยวกอุดมด้วยเบต้าแคโรทีน วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินซี ซึ่งมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่จะป้องกันความเสื่อมของเซลล์ ลดโอกาสเกิดโรคมะเร็งได้หลายชนิด

5. พริกหยวกมีสรรพคุณช่วยลดความดันโลหิตสูงได้ จากสารแคปไซซินที่มีสรรพคุณช่วยให้หลอดเลือดอ่อนตัว ซึ่งจะส่งผลทำให้สลายลิ่มเลือดได้เร็ว และเสริมสร้างผนังหลอดเลือดให้แข็งแรง มีความยืดหยุ่นรับแรงดันในระดับต่างๆ ได้ดี

6. พริกหยวกช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย ช่วยให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย

7. ประโยชน์ของพริกหยวกทำให้รู้สึกอารมณ์ดี สดชื่น แจ่มใส โดยจะช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเอนดอร์ฟินซึ่งมีฤทธิ์ทำให้เกิดความผ่อนคลายและรู้สึกมีความสุข

8. พริกหยวกมีสรรพคุณช่วยลดอาการเจ็บปวด เช่น ปวดฟัน เจ็บคอ ผิวหนังอักเสบ ฯลฯ เพราะสารแคปไซซินจะมีผลช่วยชะลอความรู้สึกเจ็บปวดที่ปลายประสาทของสมองส่วนกลางให้ช้าลง

9. พริกหยวกช่วยกระตุ้นความรู้สึกอยากกินอาหาร ทำให้เจริญอาหาร และยังมีประโยชน์ต่อระบบการย่อย ช่วยกระตุ้นน้ำย่อยทำให้สามารถย่อยอาหารได้ดีขึ้น

10. สรรพคุณพริกหยวกมีฤทธิ์ช่วยขับเหงื่อ แก้อาเจียน บรรเทาอาการไอ ขับเสมหะ และแก้หวัด โดยสารแคปไซซินจะช่วยลดน้ำมูกทำให้การหายใจสะดวกขึ้น ช่วยบำบัดอาการภูมิแพ้ต่างๆ ได้

11. พริกหยวกมีสรรพคุณที่สามารถนำไปผสมกับขี้ผึ้งใช้เป็นยาทาภายนอก เพื่อรักษาอาการปวดเมื่อยที่มีสาเหตุจากไขข้ออักเสบ ทำให้เลือดลมไหลเวียนดีขึ้น

12. พริกหยวกมีประโยชน์ช่วยขับลมซึ่งจะช่วยลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ

เห็นสรรพคุณและประโยชน์ของพริกหยวกแล้ว สำหรับคนที่ไม่ชอบรสชาติของพริกที่มีความเผ็ดมากๆ คงยิ้มออกกันแล้ว เพราะคราวนี้ไม่ต้องกลัวว่าร่างกายจะไม่ได้รับคุณประโยชน์จากพริกเลย เพราะพริกหยวกจะเป็นทางเลือกที่ดีของเราอีกทางหนึ่ง แถมรสชาติก็ไม่เผ็ดจัดจนกินกันไม่ได้เลย เป็นผักสมุนไพรที่เด็กๆ กินได้ ผู้ใหญ่กินดีทีเดียว

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับผักน่ารู้...คู่สุขภาพดี