1 นั่งสมาธิ วิธีการแก้เครียดนี้จะช่วยดูแลอารมณ์และจิตใจของเราได้ดี และยังช่วยให้เป็นคนที่มีพัฒนาการทางอารมณ์ดีขึ้น ทว่าตามหลักการที่ดีแล้วควรจะเริ่มทำมาตั้งแต่เด็ก โดยอาจมีการจัดกิจกรรมให้เด็ก ๆ ได้นั่งสมาธิเป็นประจำซึ่งสามารถช่วยในเรื่องของสติได้ดี เนื่องจากสติมีส่วนสัมพันธ์กับอารมณ์ และการมีสติจะช่วยให้รู้ตัวเองอยู่เสมอว่าขณะนี้เรากำลังมีอารมณ์แบบใด ฉะนั้นเราจึงไม่ควรละเลยเรื่องอารมณ์และความนึกคิดของเด็ก ๆ เพราะอารมณ์นั้นจะมีพัฒนาการต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ จนถึงวัยผู้ใหญ่

2 เล่นดนตรีหรือวาดภาพ วิธีการแก้เครียด กิจกรรมนี้สามารถช่วยให้เราเป็นคนที่อารมณ์ดีและเย็นลง รวมทั้งยังช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ของคนเราได้ดีอีกด้วย เพราะไม่ว่าจะเป็นการอ่านโน้ตดนตรีหรือการขีดเขียนระบายสีสันบนกระดาษ ล้วนมีผลต่ออารมณ์และจิตใจ ซึ่งช่วยให้เราเป็นคนที่มีสมาธิมากยิ่งขึ้น ดังนั้น ลองหันมาสนใจการวาดภาพหรือเครื่องดนตรีสักชิ้นที่คิดว่าตัวเราชอบ อาทิ กีตาร์ เปียโน ระนาด ขิม ซอ

3 เรียนภาษาเพิ่มเติม เนื่องจากการเรียนรู้เกี่ยวกับภาษาจะทำให้เราได้มีโอกาสฝึกพูดคำศัพท์ใหม่ ๆ ซึ่งส่งผลให้สมองและจิตใจเกิดการตอบสนองให้เป็นคนที่ใช้ความคิดได้เร็วขึ้น รวมทั้งยังช่วยกระตุ้นความรู้สึกสดชื่น สบาย อารมณ์ดี และถ้ามีการนำไปใช้จริงในชีวิตประจำวัน อาทิ การเดินทางไปต่างประเทศหรือการได้พบเจอชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นเจ้าของภาษาที่เรียนรู้ ก็จะทำให้เราฝึกการใช้ภาษาได้อย่างไม่น่าเบื่อ จึงเป็นวิธีการแก้เครียด เสริมสร้างอารมณ์ดีได้อีกทางหนึ่ง

4 อ่านหนังสือบ่อย ๆ เพราะทักษะจากการอ่านหนังสือจะช่วยในเรื่องของการรับรู้และเข้าใจสิ่งต่าง ๆ รอบตัวมากขึ้น โดยหนังสือที่อ่านนั้นจะเป็นแนวไหนก็ได้ที่เราชอบ ตั้งแต่วรรณกรรม นวนิยาย วิทยาศาสตร์ การ์ตูน ประวัติศาสตร์ สารคดี ท่องเที่ยว จิตวิทยา ธรรมะ เป็นต้น ส่วนช่วงเวลาในการอ่านหนังสืออาจเป็นวันที่เราว่าง ระหว่างการเดินทางไปทำงาน ไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ ยิ่งในช่วงเวลาพักร้อนที่เรามีโอกาสได้หลุดพ้นจากชีวิตประจำวันอันจำเจ การได้อ่านหนังสือเล่มโปรดก็มีส่วนช่วยในเรื่องของการพักผ่อน แล้วเราจะค้นพบว่าตัวเองมีอารมณ์ที่ดีขึ้นอย่างไม่รู้ตัว แถมยังชอบพูดคุยกับผู้คนมากขึ้นอีกด้วย

5 การวิ่ง เป็นการออกกำลังกายง่าย ๆ ที่จะช่วยเพิ่มออกซิเจนในสมองให้ไหลเวียนภายในร่างกายได้ดี พร้อมกับร่างกายก็จะหลั่งสารเอนโดรฟิน ซึ่งช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าและเกิดความรู้สึกดี ๆ ในตัวเอง แต่ไม่จำเป็นถึงกับต้องไปวิ่งมาราธอนแข่งขันเอาเป็นเอาตายหรอกนะ เพราะเพียงแค่เรามีรองเท้าสำหรับวิ่ง 1 คู่ก็พอแล้ว