free web tracker, fire_lady Gene Therapy –พันธุกรรมบำบัด อนาคตของการรักษามะเร็ง • สุขภาพดี

Gene Therapy –พันธุกรรมบำบัด

อนาคตของการรักษามะเร็ง

โรคมะเร็งเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของคนไทย ด้วยเหตุนี้วงการแพทย์จึงพยายามศึกษาหาวิธีการรักษาโรคมะเร็งให้ได้ผลดียิ่งขึ้นกว่าวิธีการรักษาแบบมาตรฐานที่ใช้กันมานาน ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัด การฉายรังสี เคมีบำบัด จนกระทั่งปัจจุบันมีวิธีการรักษาแบบใหม่ที่เรียกว่า “พันธุกรรมบำบัด” หรือ Gene Therapy ทำให้ผู้ป่วยมะเร็งต่างๆ มีความหวังมากขึ้น วันนี้เราลองมาทำความรู้จักกับการรักษาแบบพันธุกรรมบำบัดไปพร้อมๆ กันนะคะ

การรักษามะเร็งด้วยพันธุกรรมบำบัดเป็นอย่างไร

เป็นวิธีการรักษาที่มุ่งเน้นไปยังต้นเหตุของมะเร็ง นั่นก็คือการรักษายีนที่มีความผิดปกติ โดยทำการถ่ายยีนที่ปกติเข้าไปแทนที่ หรือใส่ยีนที่ปกติเข้าไปโดยไม่ต้องตัดเอายีนที่ผิดปกติออก เริ่มแรกของการรักษาที่ต้องทำคือ

การนำชิ้นเนื้อที่สงสัยไปตรวจพิสูจน์ หากพบว่าเป็นมะเร็งเนื้อร้าย ก็จะนำเอาเนื้อเยื่อไปตรวจหาความผิดปกติของดีเอ็นเอ และตรวจโปรตีน เพราะเมื่อยีนในเซลล์ของร่างกายมีการกลายพันธ์หรือมีการเปลี่ยนแปลง จะส่งผลให้ส่วนหนึ่งของดีเอ็นเอ หรือรหัสพันธุกรรมมีการเปลี่ยนแปลงและมีการกลายพันธุ์ด้วย

นอกจากการตรวจให้พบว่ายีนที่ผิดปกติเป็นยีนตัวไหนแล้ว ยังต้องตรวจให้พบว่า การเปลี่ยนแปลงของยีนที่เกิดขึ้นเป็นการเปลี่ยนแปลงหนเดียว หรือหลายหน ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทั้ง 2 กรณี คือ มะเร็งบางชนิดอาจมียีนเปลี่ยนแปลงอันเดียว อย่างเช่น มะเร็งที่เรียกว่า GIST (Gastrointestinal Stomal Tumer) จะเปลี่ยนแปลงตัวเดียว แต่ถ้าเป็นมะเร็งชนิดอื่น เช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงของยีน 3-4 ตัว ซึ่งการมียีนเปลี่ยนแปลงหลายตัวจะทำให้การวางแผนการรักษาได้ยากขึ้น เพราะต้องใช้ยา anti gene หรือยา targeted ที่มีความจำเพาะต่อยีนที่มีความผิดปกติในการรักษาหลายตัว โดยยา anti gene ที่ใช้ในการรักษามีอยู่ในรูปแบบของยากินและยาฉีด

พันธุกรรมบำบัดเหมาะกับผู้ป่วยโรคมะเร็งกลุ่มใด

ระยะของผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่มารับการรักษาจะเป็นระยะสุดท้าย หรือระยะลุกลาม หลังจากที่ได้รับการรักษาด้วยวิธีการอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัด ให้สารเคมี ให้รังสี แต่ก็ไม่ได้ผล จึงต้องมีการตรวจหาความผิดปกติว่าเกิดจากยีนตัวไหนแล้วใช้เวลา 1-2 สัปดาห์วางแผนรักษาเพื่อจัดการกับยีนตัวที่ผิดปกตินั้นอย่างแม่นยำ ซึ่งเป็นการรักษาที่ตรงเป้าหมายแต่มีค่าใช้จ่ายสูงมากกว่าวิธีการอื่นๆ

ผลข้างเคียงของการรักษาแบบพันธุกรรมบำบัด

การรักษาด้วยวิธีนี้มีผลข้างเคียงน้อยมาก เพราะว่าเป็นการรักษาด้วยยา targeted ซึ่งจะเข้าไปให้ผลเจาะจงกับยีนที่ผิดปกติโดยเฉพาะ จึงไม่ส่งผลกระทบกับเซลล์ปกติ หากเปรียบเทียบกับการรักษาด้วยสารเคมีที่เมื่อเข้าสู่ร่างกาย ยาก็จะกระจายไปทั่วร่างกาย เมื่อสารเคมีเจอเซลล์ไหนที่แบ่งตัวก็จะทำการยับยั้งหรือชะลอการทำงานของเซลล์นั้นๆ ดังนั้นถึงแม้ว่าจะเป็นยาที่ได้ผลในการฆ่าเชื้อเซลล์มะเร็ง แต่ก็ทำลายเซลล์ปกติด้วย ส่วนการรักษาแบบพันธุกรรมบำบัดจะเกิดผลข้างเคียงสำหรับยา anti gene บางชนิดเช่น ยาบางตัวอาจจะป้องกันไม่ให้เซลล์สร้างเส้นเลือด โดยมีผลข้างเคียงกับหัวใจ หรือยาบางตัวอาจทำให้ผิวหนังแห้ง

ถึงแม้ว่าทางการแพทย์จะมีการพัฒนาเทคโนโลยีการรักษาอย่างไม่หยุดยั้ง ประสบผลสำเร็จในการรักษาโรคต่างๆ เพิ่มมากขึ้น แต่เราก็ไม่ควรชะล่าใจในการดูแลสุขภาพกันนะคะ “กันไว้ดีกว่าแก้ แน่นอนค่ะ”…..

Click here to add a comment

Leave a comment: