10 วิธีแก้ปัญหาก้นลาย ก้นดำ...อยากก้นเนียนใสเหมือนก้นเด็กต้องทำอย่างไร?

"ก้น" ถึงแม้จะเป็นส่วนที่หลบอยู่ในร่มผ้าเกือบตลอดเวลา ไม่ค่อยได้ออกมาอวดโฉมภายนอกกันง่ายๆ แต่ด้วยเรื่องความสวยความงาม ก้นแตกลาย ก้นดำก็ถือเป็นเรื่องที่ยอมกันไม่ได้อย่างยิ่ง ใครๆ ก็อยากดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้ากันทั้งนั้น ถ้าก้นลายต้องใส่บิกินี่แล้วลายแตกๆ นั้นโผล่ออกมาจ๊ะเอ๋กับคนภายนอก ได้อับอายกันไปทั้งตำบลแน่ ใครที่กำลังหนักอกหนักใจกับปัญหาก้นดำด้าน ก้นลายของตัวเอง มาดูกันดีกว่าต้องทำอย่างไรถึงจะได้ก้นเนียนๆ ใสๆ กลับคืนมาด้วย 10 วิธีแก้ก้นลาย ก้นดำ ต่อไปนี้

"ก้นลาย" ที่เราคุ้นเคยกันที่สุดคือ ก้นลายในลักษณะของผิวหนังที่แตกเป็นรอยริ้วๆ ซึ่งเกิดจากการยืดหดของผิวหนัง รอยนั้นอาจจะเป็นสีซีดจาง สีชมพู สีแดง หรือสีดำกว่าผิวบริเวณอื่นๆ ขึ้นอยู่กับระยะเวลาและพฤติกรรม เช่น เมื่อผิวแตกช่วงแรกๆ อาจจะเป็นสีเข้ม เมื่อเวลาผ่านไปจะซีดลง หรือถ้าเกาผิวที่แตก รอยจะเข้มและแตกมากขึ้น ซึ่งรอยแตกนี้สามารถเกิดขึ้นในบริเวณอื่นๆ ของร่างกายด้วย เช่น ต้นขา หน้าอก หน้าท้อง ไม่ส่งผลอันตรายใดๆ ต่อร่างกายแต่อาจจะส่งผลต่อความมั่นใจในเรื่องความสวยความงาม

ก้นลายมีหลายลักษณะ แต่ละแบบจะแตกต่างกันเล็กน้อยจนบางทีแยกไม่ออกหรืออาจจะมีหลายๆ แบบในคนคนเดียวก็ได้ ก้นลายแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ตามสาเหตุดังนี้

• ก้นลายจากรอยแตกลาย เป็นก้นลายชนิดที่พบได้บ่อยมาก พบในผู้หญิงแทบทุกคนเลยทีเดียว เกิดได้จากหลายปัจจัยเช่น ร่างกายเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว อ้วน ตั้งครรภ์ ใช้ครีมที่มีสเตียรอยด์ (ในที่นี้จะกล่าวถึงก้นลายในลักษณะนี้เป็นหลัก)

• ก้นลายจากสิว พบได้บ่อยพอๆ กับชนิดแรก เพราะก้นเป็นจุดที่อับชื้นได้ง่าย เหงื่อไคลและความอับชื้นที่เองที่กระตุ้นให้เกิดสิว เมื่อสิวหายก็จะทิ้งรอยดำเอาไว้ ส่วนใครที่ชอบแกะเกา ก็จะมีรอยดำมากกว่าเดิม

• ก้นลายจากผื่นแพ้ผิวหนัง เมื่อเป็นภูมิแพ้ผิวหนัง อาจจะมีผื่นคันหรือผิวหนังอักเสบ เมื่ออาการดีขึ้น ก็จะทิ้งรอยดำรอยแดงเอาไว้

สาเหตุเกิดการที่ผิวหนังยืดขยายตัวอย่างรวดเร็วจนเกิดการฉีกขาด เส้นเลือดที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนังจะเห็นชัดขึ้น จึงทำให้ในช่วงแรกรอยแตกมักเป็นสีชมพูหรือแดง เมื่อเวลาผ่านไปเส้นเลือดหดกลับเข้าไป รอยแตกจะจางลงเป็นสีซีดขาว

1. การเจริญเติบโตของร่างกาย เมื่อร่างกายเข้าสู่วัยรุ่น อาจจะเกิดรอยแตกได้ในบางบริเวณ ในผู้หญิงมักจะพบที่สะโพก ก้น ต้นขา ในผู้ชายมักจะพบบริเวณหัวไหล่หรือหลัง

2. น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น ในนักกีฬาเพาะกายหรือในคนอ้วน เพราะเมื่อน้ำหนักขึ้นอย่างรวดเร็ว ผิวหนังจะยืดออกอย่างรวดเร็วจนฉีกขาด

3. การตั้งครรภ์ ในสตรีตั้งครรภ์ ร่างกายบางส่วนจะขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วจากน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น เช่น หน้าท้อง สะโพก ต้นขา ต้นแขน หน้าอก โดยปกติแล้วคนท้องจะมีรอยแตกกันเกือบทุกคน แต่จะมีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับว่าน้ำหนักในขณะท้องเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใด รวมไปถึงการดูแลตัวเอง การทาครีมในช่วงตั้งครรภ์ก็มีผลเช่นกัน

4. การใช้สเตียรอยด์ สเตียรอยด์ถูกนำมาใช้ทางการแพทย์ในหลายรูปแบบทั้งยากิน ยาทา ยาพ่นรวมไปถึงยาฉีด ผลข้างเคียงจากการใช้สเตียรอยด์อาจจะทำให้ผิวหนังยืดหยุ่นน้อยลง คอลลาเจนในชั้นผิวลดลง แตกลายได้ง่ายและแตกลึกมาก โดยปกติหากเป็นการรักษาตามแพทย์สั่งมักไม่พบผลข้างเคียงนี้มากเท่าใดนักเนื่องจากแพทย์จะสั่งยาให้ตามความเหมาะสม แต่ว่าผู้ที่ผิวแตกลายเพราะสเตียรอยด์ส่วนมากมีสาเหตุมาจากการซื้อครีมตามอินเทอร์เน็ตมาใช้ ครีมเหล่านี้อันตรายมาก นอกจากสเตียรอยด์แล้วยังมีสารอันตรายอื่นอีกเพียบ

5. พันธุกรรม หากพบว่ามารดามีอาการผิวแตกลาย ลูกๆ ก็จะมีแนวโน้มที่จะผิวแตกลายตามเช่นกัน เพียงแต่ว่าจะพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย

1. ขัดผิวเป็นประจำ ใช้ฟองน้ำหรือใยบวบทุกครั้งที่อาบน้ำ นำมาขัดวนๆ เบาๆ ที่ก้นหรือบริเวณที่แตก จะช่วยจัดคราบไคลและสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ รอยแตกลายจะจางลง ผิวจะใสขึ้น เนียนขึ้น ลองทำทุกวันประมาณ 2-3 สัปดาห์แล้วลูบดู จะรู้สึกได้เลยทีเดียวว่าผิวเนียนลื่นมือ วิธีนี้ช่วยลดสิวที่ก้นด้วยนะ

2. สครับผิวอย่างสม่ำเสมอ แนะนำสครับสูตรธรรมชาติอย่าง มะขามเปียกผสมน้ำผึ้ง หรือน้ำผึ้งกับกากกาแฟ นำมาสครับที่ก้น ขัดๆ เบาๆ ให้ทั่ว แล้วทิ้งประมาณ 20-30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด เมื่อเช็ดตัวจนแห้งแล้วอย่าลืมบำรุงผิวด้วยครีมหรือน้ำมันสกัดธรรมชาติ การสครับผิวจะช่วยเร่งผลัดเซลล์ผิว กระตุ้นการเกิดเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวเนียนนุ่ม เนียนใส สครับสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง รับรองว่าก้นคุณจะเนียนเหมือนก้นเด็กในเวลาไม่นาน

3. บำรุงผิวทุกครั้งหลังอาบน้ำ ผิวที่ก้นก็เหมือนผิวส่วนอื่น ต้องการการบำรุงเช่นเดียวกัน ดังนั้นหลังอาบน้ำเสร็จ เช็ดผิวให้แห้งอย่างเบามือ จากนั้นทาครีมให้ทั่ว ใครมีน้ำมันสกัดธรรมชาติเช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก ก็สามารถใช้ได้เช่นกัน แต่สำหรับคนที่ผิวมันควรหลีกเลี่ยง เพราะจะทำให้รูขุมขนอุดตันจนเป็นสิวได้ง่าย

5. ไม่ใส่กางเกงรัดเกินไป เลือกกางเกงทั้งกางเกงชั้นนอกและชั้นในที่สวมใส่พอดีตัวหรือหลวมกว่าเล็กน้อย เพื่อลดการเสียดสีระหว่างเนื้อผ้ากับผิวหนัง เพราะจะทำให้ผิวคล้ำลงไปมากกว่าเดิม อย่าลืมใส่ใจในเรื่องเนื้อผ้า ควรเป็นกางเกงที่ทอจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น ฝ้าย เพราะเบาสบาย ระบายอากาศได้ดีค่ะ

6. หลีกเลี่ยงการใส่กางเกงชั้นในในเวลานอน เมื่อถึงเวลาเข้านอนแล้ว เราไม่จำเป็นต้องออกไปข้างนอกแล้ว การไม่ใส่กางเกงชั้นในจะช่วยลดการเสียดสีระหว่างผิวกับผ้าลงได้ เหมือนให้ผิวได้พักผ่อนหลังจากที่อบอ้าวอยู่ในร่มผ้ามาทั้งวัน คนที่ใส่มาตลอดหากต้องเลิกใส่ในช่วงแรกๆ อาจจะรู้สึกแปลกๆ โล่งๆ หรือไม่ชิน แต่ผ่านไปสักพักจะดีขึ้น หรือถ้าใครหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ แนะนำให้ใส่กางเกงชั้นในแบบผ้านิ่มลื่นและไร้ขอบค่ะ

7. เบาะรองนั่ง การนั่งกับพื้นแข็งๆ นานๆ จะทำให้ก้นดำคล้ำมากขึ้น เพราะผิวถูกเสียดสีและกดทับอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นลองหาเบาะรองนั่งนุ่มๆ สักอันมาใช้ ช่วยได้มากเลยค่ะ

8. อาบน้ำทุกครั้งหลังเหงื่อออก เมื่อเหงื่อออก ห้ามหมักหมมเอาไว้นานๆ เด็ดขาด เพราะครบไคลจะเกาะแน่นจนดำคล้ำ ดูไม่สะอาด แบคทีเรียจะเจริญเติบโตจนอาจเป็นสาเหตุของกลิ่นตัวได้ ดังนั้นจ้องอาบน้ำทุกครั้งหลังเหงื่อออกโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังออกกำลังกายหรือหลังกลับมาจากข้างนอก

ก้นลายไม่สามารถป้องกันได้ 100%  เนื่องจากบางปัจจัยไม่สามารถควบคุมได้ แต่ว่าเราสามารถลดความเสี่ยงหรือลดการเกิดก้นลายลงได้ ดังนี้

1. ทาครีมบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ หมั่นทาครีมบำรุงผิวอยู่เสมอๆ เพื่อให้ผิวหนังเนียนนุ่มและยืดหยุ่น ถึงแม้จะไม่สามารถป้องกันได้เต็มร้อย แต่ก็ช่วยไม่ให้แตกมาจนเกินไป

2. รอยแตกสำหรับสตรีตั้งครรภ์ ป้องกันโดยควบคุมการทานอาหารไม่ให้น้ำหนักขึ้นเร็วจนเกินไป (ทานมากกว่าปกติแค่เล็กน้อย ห้ามอดอาหาร) ทาครีมที่มีมอยซ์เจอร์ไรซ์เซอร์เข้มข้นอย่างสม่ำเสมอทั้งหน้าท้อง ต้นขาและก้น งดอาบน้ำอุ่นเพราะจะทำให้ผิวแห้งแตกง่ายและสุดท้าย เมื่อรู้สึกคันๆ ตามก้นหรือท้อง ห้ามเกาเด็ดขาด เพราะจะทำให้มีรอยแตกมากกว่าเดิม

3. ดูแลตัวเอง ทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ เสริมด้วยอาหารที่มีวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี สังกะซีและซีลีเนียม ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกายต้องการเพื่อให้ผิวพรรณชุ่มชื่น สำหรับคนอ้วน ห้ามลดน้ำหนักเร็วเกินไป ส่วนในคนท้องห้ามน้ำหนักขึ้นเร็วเกินไป ห้ามแกะเกาก้นเล่นๆ ไม่ใช้กระดาษทิชชู่ที่มีผสมสีหรือน้ำหอม เลือกใช้ผงซักฟอกหรือน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ปราศจากสารเคมีรุนแรง

เรียกได้ว่ามีสารพัดวิธีแก้ก้นลาย ก้นดำ กันเลยทีเดียวให้เลือกใช้สำหรับแนวทางการแก้ปัญหาก้นลายก้นดำ ใครที่กำลังประสบกับปัญหานี้อยู่ละก็ ลองนำวิธีต่างๆ เหล่านี้ไปลองใช้ดู ถึงแม้ในปัจจุบันจะยังไม่มีวิธีป้องกันหรือรักษาก้นลายได้แบบ 100%  แนวทางข้างต้นนี้ถึงแม้จะไม่ช่วยให้หายสนิทได้ แต่รับรองว่าทำให้ดีขึ้นได้แน่นอนค่ะ