อาหารเจ ต่างจาก มังสวิรัติอย่างไร?

อาหารเจ อาหารมังสวิรัติ เพื่อสุขภาพ

รู้จักกับ "อาหารเจ"

อาหารเจ คือ อาหารที่เน้นผักผลไม้และโปรตีนจากถั่ว โดยในช่วงเทศกาล “ถือศีล กินเจ” ผู้คนจะงดรับประทานเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสัตว์ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นเนื้อ นม หรือไข่ รวมถึงผักที่มีกลิ่นฉุน กลิ่นแรง 5 ชนิดได้แก่ กระเทียม หัวหอม หลักเกลียว กุยช่าย ใบยาสูบ ซึ่งหลายคนอาจจะเป็นกังวลว่าอาหารเจ อาจมีสารอาหารไม่ครบถ้วนเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน แต่ในความเป็นจริงแล้วแม้อาหารเจจะไม่มีเนื้อสัตว์ซึ่งเป็นแหล่งของโปรตีนเป็นส่วนประกอบ แต่ก็มีเต้าหู้ รวมไปถึงถั่วชนิดต่างๆ ซึ่งให้โปรตีนที่มากกว่าเนื้อสัตว์หลายเท่า และยังเป็นโปรตีนบริสุทธิ์ มีคอเลสเตอรอลน้อย ไร้ไขมันและย่อยง่ายอีกด้วย

นอกจากนั้นอาหารเจส่วนใหญ่เป็นอาหารที่ไม่ปรุงแต่งมากนัก คล้ายๆ กับอาหารคลีนก็ว่าได้ ยกตัวอย่างเช่น อาหารที่ไม่ขัดสี จำพวกข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท ซึ่งอาหารที่ไม่ขัดสีเหล่านี้จะยังคงคุณค่าสารอาหารครบถ้วน ยิ่งไปกว่านั้นอาหารเจมักจะมีรสชาติกลางๆ ไม่เค็ม ไม่เผ็ด หรือไม่หวานจนเกินไป...ซึ่งจะส่งผลดีต่อระบบย่อยและเยื่อบุกระเพาอาหารอีกด้วย และที่สำคัญผู้ที่รับประทานเจยังต้องถือศีลห้า โดยการงดเว้นจากสุราเมรัยรวมไปถึงเครื่องดื่มที่ทำลายสุขภาพอื่นๆ การงดทานเนื้อสัตว์และเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ในระหว่างเทศกาลกินเจส่งผลให้ร่างกายได้ขับสารพิษที่สะสมมาเป็นเวลานานออกมาอย่างเต็มที่...ช่วยล้างลำไส้ และเป็นการดีท็อกซ์ไปในตัวอีกด้วย

รู้จักกับ "อาหารมังสวิรัติ"

ต่อมาคืออาหารมังสวิรัติ หลายคนเริ่มจากการรับประทานมังสวิรัติก่อนรับประทานเจ เพราะอาหารมังสวิรัติจะมีข้อห้ามน้อยกว่า และหารับประทานได้ง่ายกว่าเนื่องจากมีจำหน่ายตลอดไม่เหมือนอาหารเจที่มีจำหน่ายเฉพาะช่วงเทศกาล (อาจมีนอกเทศกาลบ้างแต่ไม่มาก) โดยภาพรวมอาหารมังสวิรัติก็เหมือนกับอาหารเจคือเน้นผัก ผลไม้และโปรตีนจากถั่วและธัญพืช โดยปกติอาหารมังสวิรัติแบบเคร่งครัดจะมีลักษณะเหมือนอาหารเจทุกประการ แต่จะมีมังสวิรัติที่รับประทานนมได้ และมังสวิรัติแบบที่รับประทานได้ทั้งไข่และนม ซึ่งจะเห็นได้ว่าอาหารมังสวิรัติแบบที่สามเป็นแบบที่นิยมมากที่สุด เนื่องจากทั้งนมและไข่ยังเป็นอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายมนุษย์ เพราะในระยะยาวโปรตีนจากถั่วเหลืองเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอต่อร่างกาย

จะเห็นได้ว่าทั้งอาหารเจและอาหารมังสวิรัติมีคุณประโยชน์และสารอาหารไม่ต่างกัน ซึ่งไม่มีหลักเกณฑ์ในการเลือกรับประทานที่แน่นอน ส่วนใหญ่ก็มักจะขึ้นอยู่กับความชอบและความเหมาะสมของร่างกายของแต่ละบุคคล โดยอาหารทั้งสองประเภทนี้ต่างก็มีส่วนช่วยในปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคของคนในยุคปัจจุบันที่เร่งรีบและไม่มีเวลาดูแลตัวเองให้หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น สำหรับคนที่เคยรับประทานแต่เนื้อสัตว์มาตลอดทั้งชีวิต ก็จะได้รับประทานผักและผลไม้มากขึ้น นอกจากนั้นทั้งอาหารเจและมังสวิรัติก็ยังมีส่วนช่วยในการปรับสมดุลร่างกายและขับสารพิษที่สะสมมาเป็นเวลานานและช่วยให้อวัยวะต่างๆในร่างกายทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย ทราบแบบนี้แล้วก็ลองหันมารับประทานเจหรือมังสวิรัติกันดูบ้างนะคะ

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับเทศกาลกินเจ

กินอาหารเจ ทำให้อ้วน น้ำหนักขึ้นจริงเหรอ?

"เทศกาลกินเจ" ได้ทั้งบุญ ได้ทั้งสุขภาพ

4 เมนูอาหารเจเพื่อสุขภาพ แบบไม่เน้นแป้งและน้ำตาล

กินเจให้ถูกหลัก ลดน้ำหนักได้ชัวร์