เคล็ดลับสุขภาพ เรื่องน่ารู้ August 30, 2018 Share 16 Tweet Pin 0 “ไวน์” มีประโยชน์ หรือ โทษ ต่อสุขภาพกันแน่? หลายคนในที่นี้อาจจะเคยเห็นผ่านหูผ่านตามาบ้างว่า การดื่มไวน์ในปริมาณที่พอเหมาะนั้นดีต่อร่างกาย ลดโอกาสการเป็นโรคหัวใจและโรคความดันโลหิตสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งไวน์ที่ทำจากองุ่น ซึ่งก็น่าสงสัยเหมือนกันว่าจริงหรือไม่? เพราะมันดูขัดแย้งกับบรรดาโรคภัยต่างๆ ที่เกิดจาการดื่มแอลกอฮอล์ (รวมไปถึงไวน์ด้วย) ดังนั้นวันนี้เราจึงรวบรวมข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประโยชน์และโทษของการดื่มไวน์มาฝากกันค่ะ ไวน์ ทำมาจากอะไร?ไวน์ (Wine) คือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เกิดจากการหมักบ่มจากองุ่นหรือผลไม้ ถ้าใช้องุ่นหรือผลไม้ที่มีรสหวานมามัก ไม่จำเป็นต้องเติมแอลกอฮอล์ก็ได้ แต่ถ้าผลไม้เปรี้ยว ต้องเติมเพิ่ม เพราะน้ำตาลเป็นอาหารของยีสต์ โดยมียีสต์เป็นตัวทำปฏิกิริยา โดยยีสต์จะกินน้ำตาลในผลไม้เข้าไปแล้วขับถ่ายออกมาเป็นเอทิลแอลกอฮอล์และคาร์บอนไดออกไซด์ ถ้ายีสต์ทำให้ไวน์มีแอลกอฮอล์เข้มข้นถึงร้อยละ 14% เมื่อไรยีสต์ตาย ดังนั้นหากต้องการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดความเข้มข้นสูงกว่า 14% จะต้องกลั่นเอาแทน6 คุณประโยชน์ดีๆ ของไวน์1. ไวน์ช่วยป้องกันโรคหัวใจ จากการศึกษาวิจัยพบว่าในเมล็ดองุ่นมีสารที่ชื่อว่า Resveratrol ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยป้องกันโรคหัวใจ โดยช่วยลดการจับตัวเป็นก้อนของเลือดในหลอดเลือด เพิ่มระดับไขมันดี2. ไวน์ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบโลหิต ทำให้หลอดเลือดขยายตัว ช่วยเคลียร์ไขมันที่เกาะอยู่ตามผนังเส้นเลือด เลือดลมจะไหลเวียนได้สะดวก3. ไวน์ช่วยบำรุงผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรง ชะลอความเสื่อมของผิว ป้องกันผิวจากรังสี UVA และ UVB ปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระที่มาพร้อมกับแสงแดด4. ไวน์มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อโรค ในปากและลำคอเรามีแบคทีเรียอยู่มากมาย การดื่มไวน์ช่วยยับยั้งการเจริญของแบคทีเรียในช่องปาก ช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ ลดฟันผุ รักษาโรคเหงือก5. ประโยชน์ของไวน์ช่วยชะลอความชรา ในองุ่นมีสารแอนตี้อกซิแดนซ์อยู่เป็นจำนวนมาก สารนี้ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย จึงช่วยชะลอความชราได้6. ไวน์อุดมด้วยวิตามินซีสูง ป้องกันโรคหวัด หากเป็นไข้หวัดจะหายเร็วขึ้น ป้องโรคเลือดออกตามไรฟัน ช่วยบำรุงผิวโทษของไวน์ที่บั่นทอนสุขภาพการดื่มไวน์มากๆ ก็มีโทษเช่นเดียวกับการดื่มแอลกอฮอล์ประเภทอื่นๆ เช่น1. ทำให้ร่างกายสูญเสียความร้อน ประโยชน์ข้อหนึ่งของแอลกอฮอล์ที่หลายคนคุ้นหูคือ ช่วยคลายหนาว ซึ่งก็จริง เพราะว่าเมื่อดื่มไปแล้วร่างกายจะรู้สึกร้อนขึ้น เหงื่อออก คนดื่มก็เลยรู้สึกว่ามันช่วยแก้หนาวได้ แต่จริงๆ แล้วขณะดื่ม หลอดเลือดจะขยายตัว ร่างกายจะสูญเสียความร้อนได้ง่าย หากอากาศเย็นมากๆ จะอันตรายต่อร่างกายเป็นอย่างยิ่ง2. สติสัมปชัญญะลดลง เมื่อไวน์จะเข้าไปมากๆ การทำงานของสมองจะลดประสิทธิภาพลง ทำให้สติในส่วนที่ต้องคิดและตัดสินใจขาดความแม่นยำและผิดพลาดได้ง่าย จะเห็นอุบัติบนท้องถนน ส่วนหนึ่งก็เกิดจากการเมาแล้วขับ หากต้องทำงานควบคุมเครื่องจักรก็อาจจะผิดพลาดและเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายๆ เช่นกัน3. ประสิทธิภาพร่างกายลดลง ถ้าดื่มแค่พอกรึ่มๆ ก็อาจจะแค่รู้สึกสุนทรีย์ สนุกสนาน แต่ถ้าดื่มมากสมองกับร่างกายทำงานไม่สัมพันธ์กันเนื่องจากสมองและปลายประสาทถูกกด ทำให้ปลายนิ้วมือนิ้วเท้าชา ประสาทที่สั่งการด้านการเคลื่อนไหวไม่สามารถสั่งการได้รวดเร็วเหมือนเดิม ร่างกายจะสูญเสียการทรงตัว เดินหรือยกมือยกไม้สะเปะสะปะ4. ทำลายสุขภาพร่างกายโดยรวม สำหรับข้อนี้หมายถึงทั้งไวน์และแอลกอฮอล์ประเภทอื่นๆ ทั้งหมด ถ้าดื่มแอลกอฮอล์ที่มีดีกรีแรงมากๆในปริมาณเยอะๆ หรือดื่มติดต่อกันเป็นเวลานานๆ สุขภาพร่างกายจะแย่ลง เนื่องจากอวัยวะภายในร่างกายถูกทำลาย ดังนี้กระเพาะอาหาร เป็นอวัยวะแรกๆ ที่จะถูกทำลาย เนื่องจากแอลกอฮอล์จะถูกดูดซึมที่นี่มากที่สุด กระเพาะอาหารจะระคายเคือง อักเสบ ทำให้เบื่ออาหาร นี่เป็นสาเหตุที่เหล่านักดื่มทั้งหลายมักจะไม่ค่อยทานอาหาร สุดท้ายก็จะเป็นโรคกระเพาะอาหาร โรคแผลในกระเพาะอาหาร โรคขาดสารอาหาร เป็นต้นตับ อวัยวะที่ถูกทำลายในอันดับต่อมาก็คือ ตับ เนื่องจากเป็นอวัยวะที่ต้องคอยกำจัดแอลกอฮอล์ออกไปจากร่างกาย แอลกอฮอล์เมื่อสะสมที่ตับ จะทำให้ตับอักเสบและมีไขมันมาแทรกแทนที่เซลล์ตับ เมื่อแทรกมากๆเข้าตับก็จะบวม พออักเสบบ่อยๆ เซลล์ตับจะตายกลายเป็นโรคตับแข็งในที่สุด แต่กับบางคนถึงแม้จะไม่ป่วยเป็นโรคตับแข็งก็อาจจะป่วยเป็นโรคมะเร็งตับแทนไต นอกจากตับแล้ว ไตก็อักเสบจากการดื่มแอลกอฮอล์ได้ เพราะแอลกอฮอล์ก็จัดเป็นสารพิษชนิดหนึ่ง หากสะสมในร่างกายมากเกินกว่าที่ไตจะขับออก ไตก็จะเหี่ยว อักเสบและเสียในที่สุด เมื่อถึงตอนนั้นแม้กระทั่งปัสสาวะสักหยดก็ยากที่ขับออกเทคนิคการดื่มไวน์ให้เกิดประโยชน์ ไม่เกิดโทษในทางการแพทย์นั้นรู้กันมานานแล้วว่าการดื่มไวน์ในปริมาณที่ “พอเหมาะ” นั้นมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ว่าที่ไม่ได้รับการยืนยันหรือเปิดเผยข้อมูลใดๆ ออกมา ก็เพราะว่าปริมาณพอเหมาะของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน บางคนอาจจะดื่มแล้วหยุดได้ที่ 1 แก้ว แต่บางคนก็ถือว่าหากดื่มไปได้เรื่อยๆ แต่ยังพอมีสติอยู่นั่นคือเหมาะสมแล้ว หากทบทวนดูดีๆ แล้วจะพบว่า การดื่มไวน์นั้นผลได้อาจจะไม่คุ้มกับผลเสีย เช่น หากดื่มน้อยจะช่วยล้างคราบไขมันในหลอดเลือด ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนได้ดี แต่ถ้าดื่มมากไปกลับกลายเป็นว่า จะไปทำลายกล้ามเนื้อหัวใจ ทำให้ความดันโลหิตสูง หัวใจโตและเต้นไม่เป็นจังหวะแทน ดังนั้นแนะนำว่าไม่ควรดื่มจะดีกว่า เพราะทุกคนสามารถสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีได้ ด้วยการเลือกรับประทานอาหารและการออกกำลังกาย แต่ถ้าใครคิดว่าดื่มแล้วดีต่อสุขภาพจริงๆ แล้วละก็ ไม่ควรดื่มเกินวันละ 1 แก้วเล็กๆ และที่สำคัญควรดื่มอยู่ที่บ้านเท่านั้นเพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับตนเองเองและผู้อื่นค่ะสรุปได้ว่าไวน์นั้นดื่มแค่เล็กน้อยก็พอจะมีประโยชน์ในทางการแพทย์อยู่บ้าง แต่ในความเป็นจริงแล้ว คนเรามักจะไม่ดื่มกันแค่นิดเดียว ดังนั้นการดื่มไวน์จึงน่าจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี ดังนั้นใครที่อยากสุขภาพดี หันไปเน้นที่อาหารการกินและการออกกำลังกายจะเวิร์คสุดค่า