free web tracker, fire_lady 10 สารอาหาร เสริมสร้างพัฒนาการเด็ก...รู้แล้วต้องทาน • สุขภาพดี

10 สารอาหาร เสริมสร้างพัฒนาการเด็ก

อาหารเสริมเด็ก

คุณพ่อคุณแม่หลายคนที่มักจะกังวลใจว่า ลูกน้อยจะได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์เพียงพอกับความต้องการของร่างกายหรือเปล่า หรือเห็นลูกไม่ค่อยเจริญอาหารเท่าไร คิดอะไรไม่ออกก็จะไปซื้อวิตามินเสริมมาให้ลูกกิน จริงๆแล้ว เด็กๆก็ต้องการสารอาหารเหมือนกับวัยผู้ใหญ่อย่างเรา เพียงแต่อาจจะมากน้อยลดหลั่นไปตามวัย แต่ก็ล้วนหาได้จากอาหารที่รับประทานเข้าไปในชีวิตประจำวัน วันนี้เรามีสารอาหารหลักที่จำเป็นสำหรับเสริมสร้างพัฒนาการสำหรับเด็ก 10 อย่าง มีอะไรบ้างไปดูกันค่ะ

10 สารอาหาร เสริมพัฒนาการเด็ก

1 แคลเซียม เป็นสารอาหารที่สำคัญลำดับต้น ๆ ที่จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กระดูกและฟันของเด็ก ช่วยให้กล้ามเนื้อและเส้นประสาททำงานอย่างมีประสิทธิภาพ แคลเซียมยังช่วยไม่ให้เลือดแข็งตัวในเด็ก แหล่งแคลเซียมที่พบได้ทั่วไปคือในนม เต้าหู้ โยเกิร์ต เนยแข็ง ขนมปังธัญพืช

2 วิตามินเอเป็นสารอาหารเสริมที่ขาดไม่ได้เช่นกันสำหรับเด็ก เพราะวิตามินเอช่วยบำรุงสายตา บำรุงกระดูก บำรุงผิวหนัง เส้นผม เล็บ และช่วยป้องกันการติดเชื้อต่าง ๆ วิตามินเอพบได้ในผักใบเขียว แครอท ผักคะน้า มะม่วง ไข่นม และผลไม้สีเหลืองทุกชนิด

3 สังกะสี สังกะสีเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเด็กอีกตัวหนึ่ง ช่วยในการเผาผลาญพลังงานจากสารอาหารที่กินเข้าไปอย่างเหมาะสมและยังช่วยระบบขับถ่ายอีกด้วย นอกจากนี้สังกะสียังเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยให้เด็กมีการเจริญเติบโตเต็มที่ ไม่เกิดภาวะการเจริญเติบโตชะงักอย่างกะทันหัน แหล่งของสังกะสีมีในโยเกิร์ตผลไม้ ข้าวโอ๊ตสำเร็จรูป เนยแข็งธรรมดาและเยนแข็งริคอตตา ถั่วลิมา เต้าหู้และอกไก่

4 วิตามินอี วิตามินอีเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยซ่อมแซม DNA และรักษาภูมิคุ้มกันไม่ให้มีอะไรมาทำลายเซลล์ในร่างกายจนเสียหายไป แหล่งของวิตามินอีมีในเนย น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันจากข้าวโพด ถั่วต่าง ๆ มะม่วง ผักโขมและบร็อคโคลี่

5 โปแตสเซียมโปแตสเซียมเป็นเกลือแร่ที่ช่วยรักษาภาวะสมดุลของโซเดียมในร่างกาย ช่วยควบคุมระบบหมุนเวียนเลือดในร่างกาย ลดอัตราเสี่ยงต่อภาวะกระดูกพรุน โปแตสเซียม มีมากในมะเขือเทศ ส้ม แตงโม กล้วย และแคนตาลูป

6 วิตามินซี เป็นสารอาหารอีกตัวที่จำเป็นมากสำหรับเสริมให้กับเด็ก วิตามินซีช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอและเสริมสร้างความแข็งแรงของเนื้อเยื่อในร่างกาย สร้างความแข็งแกร่งในกระดูกและช่วยลดอาการเลือดออกตามไรฟัน วิตามินซียังช่วยกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานเต็มที่ทำให้ไม่ติดเชื้ออะไรง่าย ๆ วิตามินซีมีมากใน ส้ม เกรปฟรุ๊ต ผลกีวี มะละกอ น้ำส้ม พริกตุ้มแดงและบร็อคโคลี่ ปกติวิตามินซีมีอยู่ทั่วไปในอาหารธรรมชาติ ในผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ส้ม มะนาว มะม่วง ฝรั่ง(มีวิตามินซีมากแม้รสไม่เปรี้ยวก็ตาม) และผักทั่วๆ ไป ถ้าลูกได้กินผลไม้หลังอาหารทุกๆ วัน ก็จะได้วิตามินซีอย่างเพียงพอ นอกเสียจากลูกเป็นหวัด ไม่สบาย อนุญาตให้ซื้อวิตามินซีเสริมให้ลูกได้ เพราะช่วงนี้ร่างกายต้องการวิตามินซีมากเป็นพิเศษ แต่ก็ไม่ควรกินมากเกินไปค่ะ

7 แม็กนีเซียม เป็นส่วนประกอบของกระดูกและฟัน ช่วยให้เด็ก ๆ มีกระดูกและฟันที่สมบูรณ์แข็งแรงด้วยเช่นกัน ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายทำงานได้ปกติ รวมไปถึงช่วยในการทำงานของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อต่าง ๆ ในร่างกายอีกด้วย แหล่งแม็กนีเซียมมีใน ผักโขม ขนมปังโฮลวีท ลูกเกด กล้วย ช็อกโกแล็ต นมและถั่ว

8 ธาตุเหล็ก ธาตุเหล็กที่มีอยู่ในเม็ดเลือดแดงและโปรตีนในกล้ามเนื้อที่เรียกว่าไมฮีโมโกลบินเป็นสารอาหารที่จำเป็นในการส่งออกซิเจนผ่านเลือดไปสะสมไว้ในกล้ามเนื้อต่าง ๆ ของร่างกาย ธาตุเหล็กช่วยให้ร่างกายของเด็กเจริญเติบโตเต็มที่ เพื่อไม่ให้ลูกน้อยขาดธาตุเหล็ก ควรเสริมด้วยอาหารประเภทเนื้อไม่ติดมัน ถั่วต่าง ๆ เต้าหู้ และลูกเกด

9  วิตามินดี ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส ช่วยให้เด็ก ๆ มีกระดูกและฟันที่สมบูรณ์แข็งแรงวิตามินดีเป็นสารอาหารที่สำคัญอีกอย่างที่เด็กขาดไม่ได้ วิตามินดีช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมและสารอาหารอื่น ๆ ได้ดีขึ้น ทำให้เด็กเจริญเติบโตเต็มที่และมีเนื้อกระดูกที่แข็งแรง วิตามินดีหาได้จากปลาแซลมอน ปลาทูน่ากระป๋อง เนยแข็งที่เพิ่มสารอาหารเข้าไปด้วย น้ำส้มและไข่แดง

10 กรดไขมันจำเป็น กรดไขมันจำเป็นจัดอยู่ในไขมันดี ช่วยให้ระบบสมองและประสาทในเด็กทำงานได้ดี ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันแก่เซลล์และร่างกาย แหล่งของกรดไขมันจำเป็นหาได้จากจมูกข้าวสาลี นม และถั่ววอลนัท เป็นต้น

จะเห็นได้ว่า วิตามินพื้นฐานที่ร่างกายของเด็กต้องการมีอยู่ในอาหารทั่วไปอยู่แล้ว ทางที่ดีพ่อแม่ควรจัดอาหารให้ลูกในแต่ละมื้อให้มีครบทั้ง 5 หมู่ ดีกว่าเสียเงินซื้ออาหารเสริมสำหรับเด็ก เพราะนอกจากจะเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์แล้ว อาจเกิดอันตรายต่อเด็กในกรณีที่มีวิตามินชนิดนั้นๆในร่างกายมากเกินความต้องการอีกด้วย ดังนั้นหากลูกไม่เบื่ออาหาร ไม่เลือกมาก กินได้อยู่แล้วก็ไม่ต้องไปซื้อหาวิตามินเสริมมาให้จะดีกว่า แต่หากลูกไม่ค่อยเจริญอาหาร ทานได้น้อย ก็ขอแนะนำเพียงวิตามินรวมเพียงอย่างเดียวจะดีกว่า เนื่องจากวิตามินรวมจะมีวิตามินพื้นฐานที่ร่างกายเด็กต้องการอยู่เกือบทุกชนิด แต่มีชนิดละไม่มากเกินความต้องการของร่างกายเด็ก แต่ทางที่ดีที่สุด ควรให้ลูกรักได้รับวิตามินธรรมชาติจากอาหารจะดีที่สุดค่ะ