10 สรรพคุณ...ประโยชน์ของสาหร่ายสีแดง อาหารช่วยกำจัดอนุมูลอิสระ ศัตรูตัวร้ายบ่อเกิดของโรคภัย

สำหรับใครกำลังมองหาอาหารเพื่อสุขภาพที่แตกต่างไปจากอาหารแบบเดิมๆ เราขอแนะนำ “สาหร่ายสีแดง” เชื่อว่าคนส่วนใหญ่คงยังไม่ค่อยได้ลองกินกัน เผลอๆ บางทีอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อด้วยซ้ำไป อยากรู้เรื่องราวของสาหร่ายสีแดงกันมากขึ้นแล้วใช่ไหม ก็อย่ารอช้าเพราะเราขอทำหน้าที่พาทุกคนไปรู้จักกับสรรพคุณและประโยชน์ของสาหร่ายสีแดง ที่หากคุณรู้แล้ว ต้องรักเลย!!

“สาหร่ายสีแดง” คือ? มีคุณค่าอย่างไร?

“สาหร่ายสีแดง” จัดเป็นสาหร่ายอีกชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและความงาม เราสามารถพบสาหร่ายสีแดงได้ตามชายฝั่งทะเลเขตร้อน และมีคุณสมบัติพิเศษคือสามารถปกป้องตัวเองจากอันตรายของรังสียูวีในแสงแดด รวมถึงความเค็มของน้ำทะเลที่อยู่อาศัยซึ่งจะชะล้างตัวมันเองได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้มันอยู่รอดได้แม้ในสภาวะอากาศร้อนหรือหนาวจัด และแห้งแล้ง นั่นเพราะสาหร่ายสีแดงมีสารต้านอนุมูลอิสระคุณภาพเข้มข้นชื่อว่า แอสตาแซนทิน (Astaxanthin) ซึ่งจะช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระได้มากกว่าสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น วิตามินซี วิตามินอี เบต้าแคโรทีน ซีลีเนียม สารสกัดจากพฤกษาธรรมชาติ ฯลฯ

ทำให้มีการนำสาหร่ายสีแดงมาวิจัยสกัดเอาแอสตาแซนทินเพื่อใช้ประโยชน์ในด้านความงามอย่างแพร่หลาย ทั้งในเครื่องสำอางและอาหารเสริมต่างๆ ซึ่งจะช่วยจัดการฟื้นฟูสภาพผิวเสียให้ดีขึ้น บำรุงผิวพรรณ โดยแอสตาแซนทินจัดอยู่ในกลุ่มแคโรทีนอยด์ที่ดีต่อสุขภาพ ในทางการแพทย์จึงใช้สาหร่ายสีแดงมาช่วยลดผลกระทบจากอนุมูลอิสระที่จะทำให้เกิดโรคแห่งความเสื่อม เพราะฤทธิ์ของแอสตาแซนทินในสาหร่ายสีแดงที่จะช่วยป้องกันโรคภัยและดูแลสุขภาพนั้นมีมากมายเกินกว่าที่คุณคิดไว้แน่นอน

10 สรรพคุณของสาหร่ายสีแดง ประโยชน์ในการรักษาโรค

1. สาหร่ายสีแดงช่วยดูแลสุขภาพของสายตา ป้องกันและบรรเทาปัญหาที่เกี่ยวกับดวงตา เช่น ปวดตา ตาแห้ง สายตาเหนื่อยล้าจากการใช้งานหนัก จอตาเริ่มเสื่อมสภาพ ฯลฯ ทำให้การมองเห็นดีขึ้น บำรุงเบ้าตาให้รู้สึกผ่อนคลาย ดวงตามีความชุ่มชื้นเพราะสารสำคัญในสาหร่ายสามารถดูดซึมน้ำมาหล่อเลี้ยงได้ดี

2. สาหร่ายสีแดงเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นเยี่ยม ช่วยปกป้องเซลล์ผิวอย่างล้ำลึก ซึ่งจะแสดงออกมาด้วยการบำรุงผิวให้มีความชุ่มชื้นและยืดหยุ่นมากขึ้น ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิวไม่ให้เหี่ยวย่นก่อนเวลาอันควร พร้อมกับการลดริ้วรอย จุดด่างดำ ฝ้า และกระ โดยจะช่วยป้องกันผิวจากรังสียูวีในแสงแดดไม่ให้มาทำร้ายผิว

3. สรรพคุณสาหร่ายสีแดงช่วยระงับความเจ็บปวดได้ ในวงการแพทย์จะใช้สารสกัดจากสาหร่ายสีแดงมาเป็นตัวช่วยเพื่อบรรเทาอาการปวด เพราะมีคุณสมบัติในการหยุดสารเคมีซึ่งเป็นสาเหตุของความเจ็บปวด และยังสามารถลดอาการอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันอาการแทรกซ้อนของโรคต่างๆ

4. สาหร่ายสีแดงช่วยเพิ่มกำลังให้แก่ร่างกาย ลดความเมื่อยล้า ทำให้มีระดับของพลังงานมากขึ้น รู้สึกกระปรี้กระเปร่าตลอดทั้งวัน และเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกาย ช่วยให้กล้ามเนื้อฟื้นตัวได้เร็ว โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาของข้อกระดูกและมีอาการบาดเจ็บตามร่างกายจะช่วยให้ดีขึ้น

5. สาหร่ายสีแดงมีคุณสมบัติในการช่วยกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันมีความแข็งแรง ทำให้สามารถต่อสู้กับโรคร้ายต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากในสาหร่ายสีแดงอุดมด้วยวิตามินหลายชนิด ร่างกายจึงไม่เจ็บป่วยง่าย

6. สาหร่ายสีแดงช่วยบำรุงสมองและระบบประสาทส่วนกลาง เพราะสารแอสตาแซนทินจะไปช่วยเลี้ยงสมอง ทำให้มีความจำที่ดีขึ้น ลดความตึงเครียด จิตใจผ่อนคลายและมีสมาธิ เหมาะกับคนที่มีความเครียดเป็นประจำหรือมักนอนไม่ค่อยหลับบ่อยๆ

7. สาหร่ายสีแดงลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง สาหร่ายสีแดงมีทั้งสารต้านอนุมูลอิสระและเอนไซม์ธรรมชาติมากมาย ซึ่งจะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้

8. สาหร่ายสีแดงช่วยรักษาและบรรเทาอาการผื่นคัน โดยจะเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนัง ลดอาการคันและแพ้ รวมทั้งรักษาอาการปวดจากแผลเปื่อยในช่องปากที่มีสาเหตุเพราะร้อนในหรือเป็นไข้

9. สาหร่ายสีแดงมีสรรพคุณในการช่วยย่อยสลายพังผืด ที่ไม่ดีออกจากร่างกายทางปัสสาวะ และรักษาอาการเส้นเอ็นยึดเพราะไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวร่างกาย เช่น การนั่งทำงานติดต่อกันเป็นเวลานาน ออกกำลังกายน้อยหรือไม่เคยออกกำลังกายเลย ฯลฯ

10. สาหร่ายสีแดงสามารถซึมเข้าสู่ลำไส้ได้ดี จึงช่วยป้องกันอาการท้องผูกและโรคริดสีดวงทวาร ทำให้การขับถ่ายเป็นปกติ

จากคุณสมบัติเด่นในด้านการต้านอนุมูลอิสระของสาหร่ายสีแดงถือว่ามีสรรพคุณและประโยชน์ต่อคนเราอย่างมาก ซึ่งเหมาะกับการกินเป็นอาหารเสริมเพื่อช่วยดูแลสุขภาพ เพราะอาจยังไม่ถึงขั้นนำมาใช้เป็นยารักษาโรคได้เลย โดยควรกินอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รวมทั้งพักผ่อนให้เพียงพอควบคู่กันไปด้วย สุขภาพร่างกายจะค่อยๆ ดีขึ้น ผิวพรรณสดใสแบบคนมีสุขภาพดี และห่างไกลจากโรคร้ายได้มากขึ้นด้วย

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับอาหารเพื่อสุขภาพ