เคล็ด(ไม่)ลับ เคล็ดลับสุขภาพ December 3, 2015 Share 15 Tweet Pin 0 5 วิธีง่ายๆ ลดอาการปวดเมื่อยจากการปั่นจักรยาน การออกกำลังกายแทบทุกประเภทเป็นการใช้กล้ามเนื้อมากเป็นพิเศษ จึงไม่น่าแปลกใจที่หลังออกกำลังกายแล้วมักจะมีอาการปวด เมื่อย และระบม การปั่นจักรยานก็เช่นกันเพราะต้องใช้ทั้งพละกำลังทั้งขาและแขน นอกจากนั้นการนั่งบนอานนานๆ อาจทำให้ปวดบั้นท้ายและหลังอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ วันนี้สุขภาพดี...จึงนำเสนอวิธีการรักษาหรือลดอาการปวดเมื่อยจากการปั่นจักรยาน ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายและสามารถทำได้ที่บ้านอีกด้วย ลดอาการปวดเมื่อยจากการปั่นจักรยาน 1 บำบัดด้วยโปรตีน ในช่วงที่ร่างกายได้รับบาดเจ็บหรือปวดเมื่อยจากการออกกำลังกาย การดูแลรักษาจากภายนอกอาจไม่เพียงพอ ร่างกายจำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูภายในด้วย ซึ่งสามารถทำได้ด้วยการรับประทานโปรตีน เพราะโปรตีนเป็นสารอาหารทีสามารถซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอภายในร่างกายได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังทำให้เซลล์ต่างๆในร่างกายแข็งแรง และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยโปรตีนที่สามารถหาได้ทั่วไปได้แก่ โปรตีนจากนมถั่วเหลืองหรือเต้าหูขาว ไข่เนื้อสัตว์จำพวกปลาชนิดต่างๆเป็นต้น...การได้รับโปรตีนที่เพียงพอต่อร่างกายนอกจากช่วยลดอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อแล้ว ยังเป็นการเพิ่มกล้ามเนื้อทำให้หุ่นกระชับได้สัดส่วนอีกด้วย 2 การประคบร้อน-เย็น การประคบถือเป็นการปฐมพยาบาลอีกรูปแบบหนึ่งที่นิยมทำกันมากเมื่อกล้ามเนื้อหรือเอ็นอักเสบ และมักจะเกิดกับนักปั่นจักรยานมือใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปั่นจักรยานในระยะทางไกลๆ โดยการประคบร้อนและเย็นนี้จะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย กล่าวคือ การประคบเย็นจะทำทันทีเมื่อมีอาการปวด โดยจะใช้ผ้าสะอาดห่อน้ำแข็งหรือใช้เจลเย็นก็ได้ เพื่อลดอาการปวดบวมและอักเสบ ในการประคบเย็นจะต้องประคบวันละ 2-3 ครั้ง ครั้งละ 20-30 นาที...ส่วนการประคบร้อนนั้นควรทำหลังจากประคบเย็นไปแล้ว 2 วัน แต่อาการปวดยังไม่บรรเทาลง ควรเปลี่ยนมาประคบร้อน ซึ่งควรประคบวันละ 2-3 ครั้ง ครั้งละ 15-20 นาที ทั้งนี้การประคบร้อน จะเป็นการผ่อนคลายบริเวณที่เจ็บปวด ลดอาการตึงของกล้ามเนื้อ โดยหากต้องการใช้การประคบร้อน ให้ตรวจสอบบริเวณที่ปวดให้ดีก่อนว่า...มีรอยแผลหรือบวมแดงหรือไม่ หากมีให้ใช้การประคบเย็นแทนเพื่อนไม่ให้เกิดการอักเสบเพิ่ม 3 การนวด การนวดถือเป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ดีที่สุด จากการวิจัยในชิคาโก สหรัฐอเมริกาได้นำนักปั่นสองกลุ่มมาทำการวิจัย โดยหลังปั่นจักรยานกลุ่มแรกไม่ได้รับการบำบัดด้วยการนวด แต่กลุ่มที่สองได้รับการนวด ผลปรากฏว่ากลุ่มที่ได้รับการนวดหายจากอาการปวดกล้ามเนื้อได้รวดเร็วกว่า และยังมีระบบหมุนเวียนเลือดหลังออกกำลังกายดีกว่าด้วย โดยหากร่างกายมีระบบหมุนเวียนเลือดที่ดี อวัยวะและระบบอื่นๆในร่างกายก็จะทำงานได้ดีขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเอนไซม์ การย่อยอาหาร รวมไปถึงการซ่อมแซมส่วนต่างๆของร่างกาย 4 ดื่มน้ำ การปั่นจักรยานหรือการออกกำลังกายหนักๆ ร่างกายจะขับของเสียออกมาในรูปแบบของเหงื่อ ซึ่งเหงื่อก็ได้มาจากน้ำในร่างกายนี่เอง ดังนั้นทุกครั้งที่เราเสียเหงื่อไปจึงต้องดื่มน้ำเพื่อชดเชยให้กับร่างกาย โดยหากระหว่างหรือหลังกายออกกำลังกาย ร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอ ก็จะทำให้เป็นตะคริวแบบฉับพลันปวดเมื่อยง่าย หรือในบางรายอาจเป็นเหน็บชาได้ ดังนั้นจึงควรป้องกันด้วยการพกน้ำติดตัวขณะออกไปปั่นจักรยาน เพราะเมื่อรู้สึกคอแห้งจะได้นำน้ำขึ้นมาจิบได้ทันที 5 นอนหลับ การนอนหลับเปรียบเสมือนการ refresh ร่างกายจากความเหนื่อยล้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังออกกำลังกายหนักๆ คนเรามักมีอาการปวดเมื่อยและอ่อนเพลีย ดังนั้นจึงควรนอนหลับให้ร่างกายได้ปรับสภาพ โดยหากออกกำลังกายหนักๆ แล้วไม่ได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอก็อาจจะทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนอื่นๆได้ ดังนั้นควรเข้านอนก่อนสี่ทุ่มและนอนให้ได้ 6-8 ชั่วโมง จากการวิจัยระบุว่าช่วงเวลาเที่ยงคืนจะเป็นช่วงที่ร่างกายสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ดีที่สุด นอกจากนั้นในการนอนแต่ละครั้งก็ควรปิดให้สนิทก่อน เพื่อไม่ให้แสงไฟรบกวนการพักผ่อนของสมองและทำให้หลับลึกมากขึ้นด้วย จะเห็นได้ว่าอาการบาดเจ็บจากการปั่นจักรยานเป็นอาการที่ไม่ร้ายแรงมาก หากได้รับการบำบัดที่ถูกวิธี เพียงไม่กี่วันร่างกายก็จะสามารถฟื้นฟูกลับมาใหม่ได้ เพราะฉะนั้นสำหรับคนที่กลัวการปั่นจักรยานก็คงสบายใจได้แล้วว่า...หากเกิดอาการบาดเจ็บก็สามารถรักษา ฟื้นฟู ได้ง่ายๆ ด้วยตนเองจากเทคนิคที่นำมาฝากนี้ ทราบอย่างนี้แล้วจะตัดการปั่นจักรยานออกจากโปรแกรมการออกกำลังกายของคุณได้อย่างไร ว่ามั้ยละค่ะบทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการปั่นจักรยาน 5 เหตุผลดีๆ ที่ต้องปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพ ปั่นจักรยานอย่างไรไม่ให้บาดเจ็บ กับวิธีและเทคนิคง่ายๆ ไขข้อข้องใจ...ปั่นจักรยานเสี่ยงเป็นหมันจริงหรือ? ปั่นจักรยานอย่างไรไม่ให้น่องโต ?