“สารไฮโดรควิโนน” อันตรายจากครีมหน้าใสที่ต้องหลีกเลี่ยง!!

ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหน้าขาวใส เป็นที่นิยมอยู่เสมอสำหรับสาวๆ ที่อยู่ในโซนอากาศร้อน แสงแดดที่แผดเผาทำร้ายผิวสาวๆ ให้ดำคล้ำ เป็นสิว ฝ้าและกระได้อย่างง่าย จึงมีเครื่องสำอางผลิตขึ้นมามากมายเพื่อตอบสนองความต้องการ แต่ไม่ใช่เครื่องสำอางทุกยี่ห้อที่จะมีการผลิตเป็นไปตามมาตรฐาน เพราะมีผู้ประกอบการบางรายหัวใสแบบไม่สนใจผิวผู้บริโภคใส่ “สารไฮโดรควิโนน” ลงไปด้วย เพื่อให้เห็นผลไว ขาวเร็ว นั่นเอง เครื่องสำอางกลุ่มนี้มักมีจำหน่ายตามช่องทางออนไลน์ต่างๆ ใครที่กำลังจะซื้อครีมผิวขาว หน้าใสมาใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งครีมที่มีการโฆษณาว่าขาวเร็ว ขาวไว มาดูกันดีกว่าครีมนั้นมีความเสี่ยงที่จะมีสารไฮโดรควิโนนผสมอยู่หรือเปล่า

ไฮโดรควิโนน (hydroquinone) คือสารเคมีชนิดหนึ่งที่นิยมนำมาผลิตครีมสำหรับใบหน้าขาวใสในอดีต เนื่องจากสารนี้ช่วยยับยั้งการสร้าเงม็ดสีผิวที่เรียกว่า “เมลานิน” จึงช่วยให้ผิวขาวขึ้นและยังนำมาผลิตเป็นยาทาเพื่อรักษาผิวที่เป็นฝ้า กระหรือรอยดำต่างๆ ที่เกิดจากสิว แต่เนื่องจากไฮโดรควิโดนมีผลข้างเคียงหลายอย่าง บางประเทศในทวีปยุโรปจึงเพิกถอนจากการเป็นยา ส่วนในประเทศไทยถูกสั่งห้ามไม่ให้ผสมสารนี้ลงไปในผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางต่างๆ แต่ทางด้านการแพทย์ยังมีการจ่ายยาที่ผสมไฮโดรควิโนนอยู่ตามดุลยพินิจที่เหมาะสม แต่ต้องใช้ภายใต้การควบคุมอย่างใกล้ชิดจากแพทย์

ปัจจุบันมีการลักลอบผสมสารไฮโดรควิโนนลงในเครื่องสำอางจำพวกครีมหน้าขาวใส ครีมรักษาสิวฝ้าต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ขายกันตามอินเตอร์เน็ต มีปริมาณไฮโดรควิโดนมากกว่าที่อย.กำหนด ซึ่งมีผลทำให้โครงสร้างผิวเปลี่ยนแปลง และเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังหากใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ

สำหรับไฮโดรควิโนนในประเทศไทย ถูกนำมาผลิตเป็นยาทารักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ มีทั้งรูปแบบครีมและเจล เพราะไฮโดรควิโนนมีสรรพคุณช่วยกดการสร้างเม็ดสีผิว ทำให้สร้างเม็ดสีผิวลดลง จึงทำให้ฝ้า กระและรอยด่างดำจางลง

การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากไฮโดรควิโนน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน มักจะมีไฮโดรควิโนนผสมอยู่มากกว่าตามที่สำนักคณะกรรมการอาหารและยากำหนด ผลข้างเคียงคือ เริ่มแรกจะมีการระคายเคืองที่ผิวหนัง มีจุดด่างขาวที่หน้า อาจจะเป็นฝ้าถาวร รักษาไม่หาย ผิวดำคล้ำ มีตุ่มนูนดำขึ้นบริเวณสันจมูกและโหนกแก้ม ในบางรายหากมีอาการรุนแรง จะมีอาการคัน ผิวหนังบวมแดง แผลเปื่อย แผลพุงพอง ผิวเปลี่ยนเป็นสีม่วงคล้ำ ถ้าแพ้แบบเฉียบพลันจะเป็นลมพิษ หน้า คอและลิ้มบวม หายใจลำบาก พูดลำบาก แน่นหน้าอก เป็นไข้ ถ้ามีอาการเช่นนี้ต้องรีบไปพบแพทย์ หากทายาติดต่อกันนานกว่า 6 เดือน เนื้อเยื่อผิวจะมีการเปลี่ยนแปลง จะเกิดฝ้าถาวรที่มีสีน้ำเงินอมดำและมีโอกาสเป็นมะเร็งผิวหนังได้ในอนาคต

หากใช้ไฮโดรควิโนนมานานแล้วหยุดใช้ทันที ผิวหน้าจะแย่ลงอย่างรวดเร็ว จะไวต่อแดดและดำคล้ำ ส่วนถ้าหากใครใช้แล้วไม่ทาครีมกันแดด ไฮโดรควิโนนจะทำปฏิกิริยากับแสงแดด ผิวหน้าจะดำคล้ำได้ง่ายและฝ้าจะสีเข้มมากกว่าเดิม

สามารถทดสอบได้แต่ต้องใช้เครื่องมือหรือเทคนิคเฉพาะในการตรวจสอบ เช่น ใช้เทคนิค UV3Derivative Spectrophotometry ในการวิเคราะห์ส่วนผสม ซึ่งจะได้ข้อมูลทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพของสารที่ต้องการตรวจสอบ

การใช้ยาที่มีส่วนผสมของไฮโดรควิโนนอย่างถูกต้อง

คำแนะนำในการใช้ยาที่มีส่วนผสมของไฮโดรควิโนน

ไม่ว่าจะอยากผิวขาว หน้าใสขนาดไหน แต่เรามีเพียงใบหน้าเดียว ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใดมาใช้ ต้องดูว่าผ่านอย.หรือไม่ ศึกษาข้อมูลของผลิตภัณฑ์ให้ละเอียด ส่วนใครที่ต้องการรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำด้วยยาไฮโดรควิโนน ห้ามซื้อมาใช้เองเด็ดขาด แนะนำให้เข้าไปพบแพทย์ เพื่อที่จะได้รับแนวทางการรักษาที่ถูกต้องและปลอดภัยที่สุด